Social Icons

twitterfacebookgoogle pluslinkedinrss feedemail

20 ก.พ. 2560

จุดเริ่มต้นกับคนต้นแบบที่กล้าคิดกล้าทำ

จุดเริ่มต้นกับคนต้นแบบที่กล้าคิดกล้าทำ

จุดเริ่มต้นของการคิดจะกลับบ้าน เกิดจากการทำงานไกลบ้าน เพื่อสร้างความร่ำรวย แต่เมื่ออยู่นานไป ทำให้นึกถึงความสุขที่มาจากการที่มีสุขภาพดี ชีวิตไม่วุ่นวาย ชีวิตที่ได้อยู่กับธรรมชาติ ที่ไม่มีมลพิษจากจราจรติดในเมือง ชีวิตที่เร่งรีบ

ดังนั้นจึงหาตัวอย่างและต้นแบบที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ จึงได้หาข้อมูลจาก Youtube

1) หอมแผ่นดิน ฉันคือชาวนา

เผยแพร่เมื่อ 4 มิ.ย. 2014

เด็กสาวที่มีความเด็ดเดียว ตัดสินใจทิ้งความรู้ระดับปริญญาตรีกลับมาทำนาที่บ้าน โดยมุ่งหวังให้ที่บ้าน เลิกการใช้สารเคมีและหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกข้าวอินทรีย์ เพียงเพราะต้องการให้ครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง แม้จะต้องยืนอยู่บนเส้นทางของความเชื่อและความขัดแย้ งกับ พ่อ และแม่ จนถึงวันนี้ มิ้นท์ กลายมาเป็นแรงบัลดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ และรุ่นเก่ามากมาย มิ้นท์ มณีกาญจน์ บุญส่ง

แหล่งข้อมูล https://www.youtube.com/watch?v=ios6bRZMjpI

2) หอมแผ่นดิน ตอน หญิงแกร่งแห่งท้องทุ่ง

เผยแพร่เมื่อ 14 ส.ค. 2013

จากผุู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ชอบการเกษตร ไม่มีความคิดที่จะกลับมาทำนา แต่ด้วยชะตาที่พลิกผัน ทำให้มาถึงวันที่หวนคืนนา แต่การกลับมาในครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า ชาวนา เป็นอาชีพที่ทำให้เธอมีความสุข ความสุขที่เำกิดจากการทำนาในรูปแบบของตัวเอง คือ การทำนาโยน วันนี้เธอคือชาวนาที่สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง

แหล่งข้อมูล https://www.youtube.com/watch?v=fVLI2OkcZco

ย้อนมาดูตัวเองแล้ว อยากกลับบ้านไปทำเกษตร แต่ครอบครัวรับไม่ได้ที่จะมาเป็นเกษตรกร มองว่าเราทำไม่ได้ อยากให้รับราชการ เพื่อที่จะไม่ได้ลำบากและกลัวจะทำงานหนักไม่ได้

ช่วงสิ้นเดือน หรือช่วงวันหยุดจะกลับบ้านไปช่วยงานเกษตรที่บ้าน วันไหนมีขายผักตอนเย็น วันนั้นจะรีบตื่นตี 4 มาหุงข้าว แม่ะทำกับข้าว เมื่อทานข้าวเสร็จ ก็รีบไปเก็บผักมาล้าง เลือกใบไม่สวยออก จากนั้นก็นำมามัดเป็นกำ

เมื่อบ่าย 3 แม่ก็จะเอารถมาเข็น ผูกกับท้ายรถจักรยานยนต์ ขับไปขายที่ตลาดคลองถม ซึ่งจะขายวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์

ช่วงเทศกาลก็ไปขายช่วยท่าน มีลูกค้าที่หลากหลาย ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการขาย การพูดคุยกับลูกค้าอย่างสนุกสนาน มีลดแลกแจกแถมกันไป

บางครั้งขายหมด ก็ขับรถไปสวนเก็บผักมาขายเพิ่ม ซึ่งห่างจากบ้าน 7-8 กิโลเมตร

ช่วงต้นเดือนมกราคม ช่วงปีใหม่ ก็ไปเก็บข้าวโพด

ช่วงต้นเดือนมีนาคม ก็ไปเก็บเกี่ยวถั่วเหลือง ถ้าตรงกับเสารื-อาทิตย์

บางช่วงช่วยท่านตัดอ้อย อ้อยล้มทำให้ยากต่อการตัดอ้อย

จะเห็นได้ว่าท่านทำเกษตรเชิงเดี่ยว แต่อยากกลับไปทำเกษตรแบบผสมผสาน จึงมองหาเส้นทางและแนวทางในการสร้างความฝัน จึงมองโครงการ 1 ไร่ 1 แสน กับ โครงการคนกล้าคืนถิ่น

แล้วสักวันเราต้องกลับบ้านไปทำให้สำเร็จจะได้อยู่กับครอบครัว ชีวิตที่สงบเรียบง่ายกับธรรมชาติ

โครงการคนกล้าคืนถิ่น มีใครกล้าไหมค่ะ

คนกล้าคืนถิ่น

คุณสมบัติผู้สมัคร
  • 1) มีความตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองให้ใช้ชีวิตในวิถีเกษตรยั่งยืน ได้อย่างมั่งคั่ง อยู่ได้จริง
  • 2) มีความสามารถทางด้านการใช้เทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต อีเมลล์
  • 3) มีความสามารถในการใช้ social media ในการสื่อสาร เช่น line Facebook
  • 4) มีทัศนคติที่ดี เปิดกว้างพร้อมเรียนรู้
  • 5) เข้าอบรมบ่มเพาะเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน 4 คืน ในช่วงระหว่างเดือน เมษายน ถึง มิถุนายน และลงแปลงปฏิบัติจริงได้ครบ 5 เดือนหลังจากนั้น
  • 6) มีที่ดินสำหรับลงแปลงเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการ 1-3 ไร่
  • 7) อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
  • 8) พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับโครงการในด้านต่างๆ

สามารถมาสมัครได้ที่งานคนกล้าถิ่น Digital Famer

วันที่ 3-5 มีนาคม 2560

ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

(ผู้ที่นำรถมาสามารถจอดรถได้ที่สนามกีฬาแห่งชาติ)

**หลังจากวันที่ 3-5 มี.ค. สามารถติดตามการรับสมัครได้ที่เพจ

แหล่งข้อมูลทาง Facebook คนกล้าคืนถิ่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

คนกล้าคืนถิ่น

ข้อคิดจากหนังสือ คาถาชีวิต

หนังสือ คาถาชีวิต

ผู้แต่ง วิกรม กรมดิษฐ์

หนังสือ คาถาชีวิต เป็นหนังสือที่ให้ข้อคิดที่ดี ซึ่งคุณวิกรม ท่านได้ให้ข้อคิด

เมื่อได้อ่านเล่มนี้ มีความประทับใจอยู่หลายเรื่อง วันนี้เลยขออนุญาต นำเนื้อหาจากหนังสือของท่าน มาเป็นคติเตือนใจและข้อคิดในบทความนี้ค่ะ

"คนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่นั่นไม่ใช่ข้อขีดคั่นที่จะทำให้คนที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนต้องจมปลักอยู่ในความยากจนตลอดไป หากเขาเหล่านั้นใฝ่หาความรู้ มีความขยัน อดทน ประกอบแต่คุณงามความดี และไม่งอมืองอเท้า ย่อมประสบความสำเร็จเสมอ จึงไม่แปลกอะไร ที่เราได้เห็นกันแล้วว่า คนที่ประสบความสำเร็จสามารถสร้างชื่อเสียง สร้างธุรกิจเงินล้านมากมายนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ต่างจากคนที่เกิดมาในตระกูลร่ำรวยที่มักจะทะนงตนในทางผิด ถือว่าร่ำรวยแล้วจึงไม่คิดขวนขวายเท่าที่ควร "

ข้อความข้างต้น มาจากหนังสือคาถาชีวิต หน้าที่ 124

จากข้อความทำให้คนจนอย่างงเราที่ได้อ่านมีกำลังใจในการต่อสู้การทำงานในเมืองไกลบ้าน ไม่รู้อีกนานไหมที่จะได้กลับบ้าน จะรีบเก็บเงินแล้วกลับไปอยู่กับครอบครัว

ขอเป็นกำลังใจกับคนที่ทำงานไกลบ้านนะคะ